วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

สวนกลางคืน 1

http://www.homeandi.com/content/c1630.html
สวนกลางคืน

สวนเล็ก ๆ สุดสงบที่โดดเด่นด้วยผ้าม่านสีขาวนวลตาและแสงไฟสว่างไสวส่องกระทบสายน้ำ เมื่อผสมผสานกับผู้จัดสวนทั้ง 3 คนซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว อารมณ์แรกที่สัมผัสได้ยามเข้าไปใช้สวนกลางคืนแห่งนี้คือ “ดูเป็นผู้ญิ้ง ผู้หญิงเนอะ”

นอกจากเจ้าของผลงานจะเป็นผู้หญิงแล้ว ทั้งสามคนยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรชั้นปีที่ 2 อีกด้วย ชื่อสวน “The Miracle Garden” ที่พวกเธอตั้งขึ้นมา บางทีอาจจะเป็นการสื่อถึงความมหัศจรรย์ของพวกเธอเองก็ได้ เพราะที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้แบบนี้มันมาจาก 6 มือเล็ก ๆ ของพวกเธอทุกขั้นตอน!

“เราทำกันเองหมดเลยค่ะ เพิ่งเรียนปี 2 ด้วย เป็นผู้หญิงหมดเลยด้วย ไม่มีประสบการณ์ ก็จัดกันเองไม่ได้มีช่างเลย ทั้งเลื่อย ทั้งตอก ทาสีเอาเองหมดเลย” ศยาพร อาภรณ์ทิพย์ หนึ่งในทีมจัดสวนบอก ส่วนอีกสองสาวนั้นก็คือภาพร บุญปิติกุลและศรัญญา ชมเจริญ


ทั้งสามคนเรียนคณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบภายในมา จึงน่าสนใจมากที่มาแท็กทีมกันจัดสวน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เรียน Landscape มาโดยตรงด้วยซ้ำไป ศยาพรชี้แจงว่างานออกแบบภายในนั้น บางครั้งก็อาจจะต้องมีการจัดสวนอยู่ด้วย จึงเป็นความท้าทายความสามารถของพวกเธอเป็นอย่างยิ่งกับโจทย์การจัด “สวนกลางคืน” ครั้งนี้

“พอได้ยินว่าสวนกลางคืนพวกเราก็คิดถึงไฟกันก่อนเลย มันต้องมีการจัดไฟแน่นอน เรานึกเลยไปว่าเงาน้ำเวลาสะท้อนไฟแล้วไปตกกระทบกับฉากหรือผ้าม่านสีขาวนี่ มันน่าจะสวยดี เราเริ่มจากความคิดตรงนี้ก่อน” ศยาพรเล่ารายละเอียดของไอเดียเริ่มต้น

เมื่อได้จุดเริ่มต้น ต่อไปก็คือการใส่รายละเอียดเข้าไป การทำงานของสามสาวเริ่มต้นจากการพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปว่าต้องการให้งานออกมาแบบไหน จากนั้นแต่ละคนจึงกลับไปสเก็ตช์แบบมาเลือกกัน และข้อสรุปที่ลงตัวที่สุดก็คือ “เอาจุดดีของคนนั้นนิด มาผสมกับจุดเด่นของคนนี้หน่อย” นั่นเอง


“เราคิดว่าสวนเล็ก ๆ แห่งนี้ต้องมีบ่อน้ำ โดยเราจะใช้อะครีลิกใสมาทำเป็นตัวห้อย ๆ ให้วางของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ อย่างเทียนหรือแก้วอะไรแบบนี้ แล้วยิงแสงไฟจากน้ำพุข้างล่างให้เป็นแสงเงา” ศยาพรเล่าถึงความค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างของ The Miracle Garden

คอนเซ็ปต์ที่สามสาวคิดเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นคือต้องการให้สวนดูร่มรื่น มีชีวิตชีวา โดยไม่เน้นโครงสร้างที่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ เมื่อได้แบบที่ลงตัวและผ่านการคัดเลือกรอบแรกจากคณะกรรมการแล้วพวกเธอก็จัดการแบ่งหน้าที่กันทำงานตามแต่ความถนัดของแต่ละคน

“คนที่รู้เรื่องต้นไม้ที่สุดก็ไปจัดหาต้นไม้มา อีกคนไปหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ ก็ตระเวนหาค่ะว่าแหล่งไหนถูก แหล่งไหนที่คุ้มค่า ส่วนคนสุดท้ายมีหน้าที่ไปติดต่อประสานงานหาสปอนเซอร์ จากนั้นจึงกลับมาเจอกันอีกทีตอนจัดเลย” ศยาพรเล่าถึงกระบวนการทำงาน


นอกจากส่วนของบ่อน้ำและผ้าม่านซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียแล้ว สวน The Miracle Garden ยังมีที่นั่งสำหรับพักผ่อนวางอยู่บริเวณกลางสวนเพื่อให้ผู้ใช้สวนรู้สึกว่ามีธรรมชาติรายล้อมอยู่รอบตัว โดยสามสาวเลือกใช้เป็นแคร่ไม้ซึ่งให้บรรยากาศไทย ๆ แม็ทช์กับผ้าม่านสีขาวไม่น้อย

ต้นไม้ประธานของสวนแห่งนี้ ทั้งสามใช้ต้นลั่นทมหรือลีลาวดีด้วยเหตุผล “เพราะว่ามีฟอร์มสวยและดูอ่อนหวาน ดอกมีสีขาวและกลิ่นหอม ใบโค้งสวยงาม ที่สำคัญคือมันเป็นไม้ไทยโบราณที่ให้อารมณ์หวาน ๆ เหมาะกับสวนที่มีม่าน ๆ ค่ะ” ศยาพรว่า

ส่วนพรรณไม้อื่น ๆ นั้นประกอบไปด้วย ไม้ดอกอย่าง “พุดทิเซีย” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายและขนาดจะไม่โตไปกว่านี้อีกแล้ว แต่มีดอกดกสีขาว สร้างบรรยากาศของสวนให้ดูอ่อนหวานขึ้นอีก ส่วนพืชคลุมดินใช้ “เศรษฐีเรือนอก” รวมทั้งเลือกใช้ต้นที่ฟอร์มสวย ๆ อย่างกกน้ำหรือต้นจั๋งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ


“ตรงอะครีลิกใสที่เราทำห้อย ๆ เหนือบ่อน้ำนั้นใช้สำหรับวางของกระจุกกระจิก แต่ที่อยากให้วางคือเทียนค่ะ เพราะให้แสงที่นุ่มขึ้น...คือถ้าใช้แสงที่ยิงขึ้นมาอย่างเดียว บรรยากาศแสงในสวนมันจะแข็งไป แสงเทียนช่วยทำให้บรรยากาศของสวนดูนุ่มนวลขึ้นได้ค่ะ” ศยาพรว่า

สามสาวศิลปากรสร้างอาณาเขตและความเป็นสัดเป็นส่วนให้กับสวนด้วยโครงไม้ไผ่ย้อมเป็นสีเดียวกับแคร่ไม้ ตอกตะปูแล้วยึดด้วยเชือก โครงไม้ไผ่นี่นอกจากจะดูเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศสวนโดยรวมแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อยที่ผสมผสานมากับความเข้มแข็งอีกด้วย

ลีลาวดี, ม่านขาว, ไม้ดอก, เทียน ฯลฯ องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ว่ามาทำให้สวน The Miracle Garden ดูอ่อนหวานและ “โดนใจ” ผู้หญิงจริง ๆ เสียงตอบรับจึงออกมาในแนว “น่ารัก ดูหวาน ๆ ผู้หญิง ๆ” โดยกลุ่มที่ชื่นชอบสวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงและกลุ่มคนสูงอายุ



Night Life ของคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ จินตนาการแรกที่พาความคิดของเราเดินทางไปถึงก็คือ “ความหวือหวา” ไม่อย่างนั้นจะเกิดแหล่งบันเทิงของคนรุ่นใหม่ไล่เรียงมาตามยุคต่าง ๆ หรือ? ทั้งอาร์ซีเอ, คอกวัว, อตก. ไล่มาจนถึงรัชดาฯซอยสี่

แต่ที่ว่ามานี้ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของ Night Life ของคนรุ่นใหม่ เพราะบางคนก็เลือกที่จะกลับไปพักผ่อนสบาย ๆ ชิล ๆ อยู่กับบ้านซะมากกว่าหรือเต็มที่แค่ออกไปทานอาหารเสพบรรยากาศสวย ๆ งาม ๆ ของร้านอาหารสมัยใหม่แค่นั้นเอง...ที่ว่ามานี้เกี่ยวกับการจัดสวนมั้ยนี่?

ในบรรดาสวนกลางคืนที่ส่งเข้าประกวดในงานบ้านและสวนแฟร์’2006 นั้น เกือบทุกสวนเป็นสวนที่ “หวือหวา” ด้วยแสงไฟสมกับคอนเซ็ปต์ “สวนกลางคืน” ทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้มีอยู่สวนหนึ่งที่ดู “เรียบ” ที่สุด แต่ในความ “เรียบ” นั้น สวนแห่งนี้มีบรรยากาศอบอุ่นน่าเข้าไปนั่งพักผ่อนไม่น้อยไปกว่าสวนอื่น ๆ เลย


สวนนี้เจ้าของไอเดียตั้งชื่อสวนได้เรียบง่ายสมใจมากว่า “Garden Night” ตรง ๆ อย่างนั้นเลย เธอคือคุณวัชรารัตน์ ธงยศปัจจุบันเป็นนักจัดสวน, ออกแบบจัดสวนอิสระ รวมทั้งยังเป็นที่ปรึกษาของบริษัทกาดเกสร จำกัด บริษัทเพาะต้นไม้และรับจัดสวนทั่วไปด้วย

“พื้นที่สำหรับจัดสวนมีขนาด 2x3.5 เมตร เรามองว่าพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับจัดสวนกลางคืนแบบนี้เหมาะกับทาวน์เฮาส์หรือคอนโด แต่คนทำงานตอนกลางวันไม่ได้ใช้สวนกลางคืนหรอก สวนสาธารณะก็ไม่ได้ใช้ เพราะกลับถึงบ้านก็นอนเลย เราอยากยืดเวลาใช้สวนกลางคืนในบ้านของเค้า” คุณวัชรารัตน์กล่าวถึงไอเดีย

นั่นจึงเป็นที่มาของไอเดียการจัดสวนที่เหมือนเป็น “สวนระเบียง” นั่นเอง ด้วยความที่เป็นพื้นที่แคบ ๆ คุณวัชรารัตน์จึงดีไซน์ให้มีการเจาะช่องตรงกำแพงเพื่อให้ผู้ใช้หรือเจ้าของสวนมีความรู้สึกเหมือนมีพื้นที่เชื่อมโยงมากขึ้น โดยช่องที่เจาะเพิ่มขึ้นมานี้เจ้าของไอเดียใช้สำหรับประดับด้วยกระถางไม้ดอกที่สวยงาม


“เราใช้ไม้ดอกเป็นหลักค่ะ เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้าน นอกนั้นก็ใช้ไม้ใบที่มีใบเป็นลักษณะกราฟฟิคเพราะบ้านสมัยใหม่เป็นสไตล์โมเดิร์น สวนที่จัดออกมาจึงควรเป็นสไตล์โมเดิร์นด้วย ส่วนบริเวณระเบียงก็ออกแบบลายเป็นแพทเทิร์นสลับลายกัน” คุณวัชรารัตน์ว่า

ทางเดินเข้าสู่สวนแห่งนี้โรยเอาไว้ด้วยก้อนกรวด จึงสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่และไม่เจ็บเท้าด้วย คุณวัชรารัตน์เลือกใช้ก้อนกรวดแบน เธอให้เหตุผลว่า “ไม่รู้ว่าคิดเอาเองหรือเปล่า คิดว่ากรวดแบนกำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ จากที่เมื่อก่อนมีแต่กรวดกลม ๆ ทั้งนั้น”

นอกจากโรยด้วยกรวดแล้วยังปลูกต้นไม้เรี่ยดินช่วยสร้างสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น พรรณไม้เรี่ยดินที่เจ้าของไอเดียใช้คือ “เฟิร์นฮาวาย” ซึ่งมีใบที่ดูเป็นกราฟฟิคสมดั่งคอนเซ็ปต์ที่วางเอาไว้ ลึกเข้าไปด้านในเป็นระเบียงไม้ใช้นั่งเล่น นอนเล่นได้ ลึกสุดเป็นที่นั่งที่ใช้โครงสร้างเดียวกับกำแพง ขนาบด้านข้างด้วยต้นไม้ประธานของสวนคือต้นหูกระจง


เลือกใช้ต้นหูกระจงเพราะโครงสร้างของต้นเป็นชั้น ๆ เห็นชัดเจนว่าเป็นเส้นกราฟฟิคดีไซน์ เวลาส่องไฟเราจะเห็นรูปทรงมันชัดเจนมากเลย” คุณวัชรารัตน์ว่า ขณะที่กำแพงที่เจาะเป็นช่องนั้น นอกจากจะวางไม้ดอก (ซึ่งทำให้สวนไม่ดูแข็ง) แล้ว ยังวางประติมากรรมเอาไว้ด้วย (กระถางต้นไม้เปล่า) ช่วยสร้างจุดเด่นได้ไม่น้อย

การใช้แสงไฟในสวน Garden Night จะใช้แสงไฟ 2 แบบด้วยกัน แบบที่หนึ่งคือแสงไฟที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ร้อนแรง เป็นแสงไฟสีเหลืองใช้เน้นประติมากรรมและไม้ดอกที่จัดไว้ในกำแพง แบบที่สองคือไฟสีขาวใช้สำหรับเน้นไม้ยืนต้นเพื่อให้เห็นลักษณะที่ชัดเจนของใบสีเขียว

จะเห็นได้ว่าการใช้แสงไม่ได้เน้นความหวือหวาเลย แต่ความเรียบ ๆ นั้นสร้างอารมณ์ให้กับสวนได้ไม่น้อย รวมทั้งยังมีฟังก์ชันของการใช้แสงที่ชัดเจนอีกด้วย เมื่อผสมผสานกับประโยชน์ใช้สอยของสวนที่ผู้จัดวางเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว บนความเรียบง่ายของรูปแบบกลับตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบเครื่อง


จึงไม่น่าแปลกใจที่เสียงตอบรับส่วนใหญ่ของคนดูจะมาในแนว ๆ “คนดูบอกว่าเรียบ ๆ ค่ะ แต่พอเข้ามาใช้แล้วดูปลอดภัยดี รูปแบบของสวนสามารถยกไปวางที่บ้านได้เลย-ถ้าจะทำ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ต้นไม้ก็น้อยชนิดด้วย สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน” คุณวัชรารัตน์ว่า

ทั้งนี้หากต้องการทำ “สวนแบบนี้” เองบ้างที่บ้าน เจ้าของไอเดียแนะนำว่าสามารถนำไปดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นตัวเองของเจ้าของบ้านได้หลายอย่างโดยเฉพาะในส่วนของกำแพงซึ่งมีช่องเจาะนั่นแหละ สามารถเปลี่ยนเทคเจอร์ได้หลายรูปแบบจะทำเป็นปูนเปลือยก็ได้ ปูกระเบื้องก็ได้ ทาสีก็ได้หรือจะเพนท์ลายก็ได้เช่นกัน

“หลักในการจัดสวนที่ดี อันดับแรกคือผู้ใช้ต้องการอะไร จากนั้นเราต้องรู้ด้วยว่าสถาปัตยกรรมโดยรวมเป็นอะไร สไตล์อะไร เราต้องจัดให้เข้ากับอาคารของเขา มันก็มีนะที่ตึกเป็นโมเดิร์น แต่อยากได้สวนแบบอื่น เราสามารถผสมผสานได้ แต่ก็ต้องบอกเจ้าของบ้านด้วย” คุณวัชรารัตน์ปิดท้ายถึงการจัดสวนที่ดี


หลักการเท่าที่กุหาได้
Twilight night
Roommag

ชีวิตคนทำงานในเมืองส่วนใหญ่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มืดซะแล้ว จะหาเวลานั่งเล่นในสวนบ้างนั้น เลิกคิดไปได้เลย แต่ถ้าเราใช้ระบบไฟมาจัดสวนให้สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ปัญหาเหล่านี้ก็คงจะหมดไป ทีนี้จะได้เลิกบ่นสักทีว่าไม่มีเวลา
Details1.สร้างลูกเล่นให้ผนังน้ำตกด้วยการใช้แผ่นอะคริลิกขนาดต่างๆ มาวางซ้อนเหลื่อมกัน นอกจากนี้เมื่อแสงไฟใต้น้ำ ส่องกระทบกับแผ่นอะคริลิกในมุมและตำแหน่งที่แตกต่างกันก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้ดีทีเดียว

2. สร้างช่องวางของบนกำแพงเพื่อเพิ่มจุดเด่น ด้านในวางแจกันที่มีกิ่งไม้เป็นฐานสำหรับใส่เทียน เมื่อแสงเทียนตกกระทบก็จะมีเงาของกิ่งไม้ที่เป็นเส้นสายให้กับกำแพง
3. ซ้อนไฟไว้ใต้บ่อน้ำ เมื่อผิวน้ำมีการเคลื่อนไหวก็จะทำให้แสงไฟที่ส่องออกมาพลิ้วไหวไปตามผิวน้ำที่เคลื่อนที่
สวนมีไฟ
จาก บ้านและสวน ปี 2545
ไฟที่ว่าไม่ใช่ไฟเปลว แต่เป็นไฟดวง ไฟส่องและไฟโคม ที่เปลี่ยนบรรยากาศสวนยามค่ำให้ดูมีมิติที่น่าเข้าหาและนำเข้าไปใช้ ทำให้ประโยชน์ที่เจ้าของบ้านจะได้รับจากสวนนี้เพิ่มขึ้นไปด้วย
“เจ้าของ” สวนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับไฟ เพราะว่าคิดไม่ถึง และคิดว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าไฟที่ดีจริงๆ ราคาก็จะสูงหน่อย แต่ก็ใช้ได้นาน และสวนตอนกลางคืนนี้มันก็เป็นอีกเรื่องเลย
คุณพสุ สุขุมเวท นักจัดสวนผู้รับผิดชอบในการออกแบบและจัดสวนแห่งนี้กล่าวถึงแนวคิดและที่มาของสวนกลางคืน
“ไฟของยี่ห้อ we-et ซึ่งเราก็จะกำหนดไปก่อน เขาก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาดู เพราะว่าไฟบางชนิดเราไม่รู้ว่ามันจะมีเลนส์แบบไหน ความกว้างของแสงกี่องศา เราจะให้สเป็คไปคร่าวๆว่าอยู่ตรงนี้ตรงนั้น แล้วเขาก็จะมาดูให้ตอนต้นไม้ลงจริงแล้ว แต่พวกไฟโคมตามทาง เราเป็นคนกำหนดจุด เพราะระยะห่างมันฟรีฟอร์มได้ และไฟนี้ก็จะมีฉายขึ้นไปแล้วก็มียิงลงมา มีใต้น้ำด้วย วางตำแหน่งก็ดูว่าส่องไปเจออะไร เน้นมุมมองที่มองจากในบ้านและตอนขับรถเข้ามา
เรื่องแสงเรื่องไฟนี้เป็นเรื่องของทั้งเหตุผลและความรู้สึก เหตุผลของการจัดแสงใช้ไฟก็เพื่อให้การใช้สอยสวนยามค่ำคืนเป็นไปได้อย่างสะดวก ส่วนด้านความรู้สึกนั้นก็คือการสร้างบรรยากาศให้สวนมีความต่าง เพื่อตอบสนองอารมณ์ที่ต้องการเสพและชื่นชมแสงสี อันเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสทั้ง 5
การจัดสวนคือการจำลองภาพธรรมชาติเข้ามาไว้ในบ้าน ด้วยรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของ
“การจัดก็คำนึงถึงเรื่ององค์ประกอบ แล้วก็ดูหลักการใช้สอย ว่าเดินมาทางนี้แล้วมอง จะเห็นอะไร เพราะว่าเวลาดีไซน์นั้น ผมสเก็ตซ์ออกมาให้เจ้าของบ้านดูเป็นไกด์ไลน์ว่าคุณจะได้ประมาณนี้ แต่พอมาลงอาจจะไม่เป็นต้นนั้น อาจจะเป็นต้นอื่นที่สวยกว่า แต่เขียนระบุไว้ว่าตรงนี้จะเป็นไม้ใหญ่
Twilight Gardens
สวนยามค่ำคืน
บ้านและสวน มกราคม 2550
อันนี้เป็นการประกวดจัดสวนกลางคืน เน้นการออกแบบตกแต่งโดยนำแสงไฟเข้ามาใช้ภายในสวน ซึ่งแนวคิดนี้เกิดจากข้อจำกัดในการใช้งานสวน เนื่องจากเวลาที่หมดไปกับการทำงานของผู้คนในปัจจุบัน การเพิ่มแสงสว่างในสวนยามค่ำคืน นอกจากจะช่วยยืดเวลาการใช้งานภายในสวนให้ยาวนานขึ้น ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้สวนยามค่ำคืน อีกทั้งแสงยังช่วยสร้างบรรยากาศและจุดเด่นให้สวน ทำให้ดูแตกต่างจากช่วงเวลากลางวัน


รางวัลชนะเลิศ
Natural of life
ใช้การออกแบบที่เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น มีพรรณไม้น้อยเพื่อให้ดูแลง่าย และเน้นพรรณไม้ที่มีรูปทรงเส้นสายชัดเจน เพื่อให้เกิดลูกเล่นกับแสงไฟ จุดเด่นของสวนอยู่ที่การนำไม้ไผ่ไปปักลงบนพื้นให้เกิดระดับสูงต่ำติดหลอดไฟไว้บนส่วนปลาย เป็นตัวแทนของหิ่งห้อย
รางวัลรองชนะเลิศ
Reflection
จุดเด่นอยู่ที่รูปแบบการจัดวางองค์ประกอบต่างๆบนพื้นที่ โดยมีแนวคิดมาจากรูปทรงของกล่องที่วางซ้อนกัน เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นมุมที่ซ้อนเกินออกมาดูมีความเคลื่อนไหวและไม่มีที่สิ้นสุด ใช้น้ำและกระจกเป็นตัวสะท้อนแสงไฟในสวนให้เกิดมิติรวมทั้งใช้รูปแบบของสวนแนวตั้งทำให้เกิดพื้นที่กว้างขึ้น
รางวัลชนะเลิศมหาชน
Romance Garden
สวนนี้ใช้การเคลื่อนไหวของแสงเป็นตัวเพิ่มมุมมองของการรับรู้โดยใช้แสงไฟส่องผ่านน้ำขึ้นมายังชั้นน้ำตกอะคริลิก เกิดเป็นเงาสะท้อนของแสงบนผนัง และเน้นแสงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เพื่อให้เกิดความนุ่มละมุนเมื่อเข้าไปใช้งาน มีการวางที่นั่งคั่น ระหว่างบ่อ เพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนน้ำไหลผ่านตลอดเวลา